ไอเดียเที่ยวบรรเจิดกับทริปเมืองสวยสุดของโลกที่คุณต้องไป โดยข้อมูลและภาพจากเว็บ Skyscanner
1.ลี่เจียง (Lijiang) จีน (China)
เมืองดังแห่งแคว้นยูนนานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่สวยที่สุดในโลก เพราะนอกจากจะมีธรรมชาติสวยงามของทะเลสาบ แม่น้ำ ภูเขาและเส้นทางชมวิวสวยๆ หลายแห่งแล้ว ลี่เจียงก็ยังเป็นเมืองโบราณที่ได้รับการยกให้เป็นเขตมรดกโลกจากยูเนสโก เสน่ห์ของเมืองนี้ก็คือแถบหมู่บ้านเก่าๆ วัดโบราณ ศาลเจ้าแบบดั้งเดิมที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติป่าเขา ที่เที่ยวห้ามพลาด เช่น เขตเมืองโบราณลี่เจียง (Lijiang Old Town) ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) หมู่บ้านไบชา (Baisha Village) เมืองโบราณชูฮี (Shuhe Ancient Town) และคฤหาสน์ไม้มูฟู (Mufu Wood Mansion) เป็นต้น
2.เกียวโต (Kyoto) ญี่ปุ่น (Japan)
เมืองแห่งวัดและศาลเจ้าเก่าแก่จำนวนมาก เกียวโตขึ้นชื่อเรื่องการรักษาผังเมืองดั้งเดิม ตรอก ซอย ซอยเล็กๆ ทางเดินลาดหินและบ้านเรือนญี่ปุ่นแบบเก่าเอาไว้ได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์จนได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองสวยที่มีเสน่ห์ของชาวอาทิตย์อุทัย มากไปกว่านั้นสาวๆ ชาวเมืองเกียวโตเขาก็ยังนิยมใส่ชุดพื้นเมืองกิโมโนเดินเล่นกันในวันธรรมดาทั่วไปอีกด้วย ที่เที่ยวเด่นๆ เมืองนี้มีอยู่หลายแห่ง เช่น วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple) ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) และปราสาทนิโจ้ (Nijo Castle) เป็นต้น
3.ดูไบ (Dubai) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates)
มหัศจรรย์เมืองมนุษย์สร้างที่เสกสรรผืนทะเลทรายให้กลายเป็นแผ่นดินและเกาะ ดูไบเป็นที่ตั้งของตึกที่สูงที่สุดของโลก มีอาคารสถาปัตยกรรมที่ทั้งสวย ทันสมัย และยิ่งใหญ่อลังการหลายแห่ง ชนิดที่คุณเห็นแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเรานี่จะสามารถสร้างตึกเหล่านี้ขึ้นมาได้ มากไปว่านั้นแล้วดูไบยังเป็นเมืองหรูหราที่ไต่ระดับทะลุ 5 ดาวไปไกลถึง 7 ดาว โน่นเลย ที่เที่ยวแนะนำเมืองนี้ เช่น เดอะปาล์มจูเมียร่าห์ (The Palm Jumeirah) เบิร์จอัลอาหรับ (Burj Al Arab) ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) และน้ำพุดูไบ (Dubai Fountain)
4.อิสตันบูล (Istanbul) ตุรกี (Turkey)
เมืองนี้ติดโผ 10 อันดับเมืองที่สวยที่สุดในโลก 2016 จากการสำรวจของหลายสื่อหลายหน่วยงาน อิสตันบูลเป็นจุดเชื่อมต่อของ 2 ทวีป เมื่อโลกตะวันตกและตะวันออกมาบรรจบกัน จึงเกิดเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรม จนไปถึงงานสถาปัตยกรรมอันสวยงามโดดเด่น โดยเฉพาะมัสยิดสีฟ้า (Blue Mosque) เสาโบราณฮิปโปโดรม (Hippodrome) และพระราชวังท็อปคาปี (Topkapi Palace) ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครไป-ใครมาต้องห้ามพลาดในการไปชมความสวยงามและยิ่งใหญ่ นอกจาก 3 สถานที่เด็ดนี้แล้วยังมีมัสยิด พระราชวังและป้อมปราการสวยๆ อีกหลายแห่ง แถมตลาดสินค้าพื้นเมืองที่นี่ก็น่าเดินเที่ยวไม่น้อยเลย
5.ฟลอเรนซ์ (Florence) อิตาลี (Italy)
เมืองที่ขึ้นชื่อด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะของยุโรปในยุคเรเนซองส์ อีกทั้งยังเป็นอยู่ในลำดับ 10 เมืองที่สวยที่สุดในโลกเสมอมา ฟลอเรนซ์ได้รับการยกให้เป็นเขตมรดกโลกของยูเนสโก เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยงานศิลปะแขนงต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรม ประติมากรรมและศิลปกรรม เราขอบอกเลยว่าคอศิลปะยุโรปโบราณต้องไปเยือนฟลอเรนซ์ให้ได้สักครั้งในชีวิต ที่เที่ยวแนะนำ เช่น วิหารฟลอรเรนซ์ (Florence Cathedral) พิพิธภัณฑ์อุฟฟิซิ (Galleria degli Uffizi) โบสถ์ซานตามาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria del Fiore) จัตุรัสดูโอโม (Piazza Duomo) โบสถ์ซานตาโครเช (Santa Croce) จตุรัสซินญอเรีย (Piazza Signoria) และจตุรัสไมเคิลแองเจโล (Piazza Michelangelo)
6.เวนิส (Venice) อิตาลี (Italy)
เมืองอันแสนโรแมนติกด้วยคูคลอง อาคารริมน้ำ ทางเดินเลียบคลองที่เชื่อมต่อเขตต่างๆ และเรือกอนโดล่าเอกลักษณ์สำคัญของเมือง เวนิสเป็นอีกหนึ่งเมืองสวยของยุโรปที่มีความโดดเด่นเรื่องงานสถาปัตยกรรม การศิลปะ และวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ วิหาร พระราชวังเก่าแก่จำนวนมาก มีพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ดีๆ หลายแห่ง ที่เที่ยวแนะนำ เช่น วิหารเซนต์มาร์ก (St. Mark’s Basilica) จัตุรัสเซนต์มาร์ก (St. Mark’s Square) ปราสาทดูกาล (Palazzo Ducale) เกาะโตเซลโล (Torcello Island) คฤหาสน์ซานร็อกโก (Scuola Grande di San Rocco) และสะพานริอาลโต (Rialto Bridge)
7.ปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)
เมืองที่โด่งดังเรื่องอาคาร วิหารและปราสาทเก่าๆ แห่งยุคเมดิอิวัล ที่ตั้งแต่ย่างก้าวแรกในเขตเมืองก็เสมือนคุณกำลังเดินย้อนเวลาสู่อดีต ผังเมืองดั้งเดิมของปรากได้รับการรักษาไว้อย่างดี จนทำให้ปรากเป็น 1 ในเมืองที่สวยที่สุดในโลก 10 อันดับด้านสถาปัตยกรรมโบราณ ที่เที่ยวเมืองนี้มีเยอะมาก เช่น ปราสาทปราก (Prague Castle) สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) หอนาฬิกาโบราณ (Astronomical Clock) จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) และป้อมยอดเขา (Hilltop Fortress) เป็นต้น
8.บาร์เซโลนา (Barcelona) สเปน (Spain)
หากเอ่ยถึงบาร์เซโลนา หลายคนคงชินตากับภาพเมืองสวยๆ ของกำแพงและราวสะพานหินประดับกระเบื้องสีสันสดใส รวมไปถึงอาคารบ้านเรือนหินแบบเก่าที่มีรูปทรงน่ารักเหมือนบ้านในเทพนิยาย เมืองนี้เต็มไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรมตั้งแต่สถาปัตยกรรมโบราณไปจนถึงกึ่งสถาปัตยกรรม-ศิลปะร่วมสมัย มีเขตมรดกโลกอยู่หลายแห่ง มากไปกว่านั้นแล้ว บาร์เซโลนาก็ยังมีโบสถ์วิหารและปราสาทสไตล์โกธิคที่ยังสวยงามสมบูรณ์มากมาย ที่เที่ยวแนะนำ เช่น วิหารลาซากราดาฟามิเลีย (Basilica de la Sagrada Familia) เขตสถาปัตยกรรมโกธิค (Gothic Quarter) สวนศิลปะปาร์คกูอัล (Parc Guell) คาซ่ามิลา (Casa Mila) คาซ่าบาทโล (Casa Batllo) และพิพิธภัณฑ์ปิกาสโซ่ (Picasso Museum)
9.ปารีส (Paris) ฝรั่งเศส (France)
เมืองน่าเที่ยวแห่งยุโรปที่ลือชื่อทั้งในเรื่องความสวยงาม ความโรแมนติก แหล่งศิลปะระดับโลก การครัวมิชลิน และแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวิหาร พระราชวังและอาคารเก่าแก่ที่มีความสวยงาม ใหญ่โตอลังการในทุกด้าน และเป็น 1 ในเมืองสำคัญแห่งประวัติศาสตร์โลกด้วย ที่เที่ยวเด็ดสะระตี่เมืองนี้คงหนีไม่พ้น หอไอเฟล (Eifel Tower) วิหารนอร์ธเธอดาม (Notre Dame Cathedral) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยนโปเลียน (Champs-Élysées & Arc de Triomphe) โบสถ์แซงต์ชาแปลล์ (Sainte Chapelle) และโรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier)
10.ลอนดอน (London) สหราชอาณาจักร (United Kingdom)
ไม่ติดลิสต์นี้จะผิดมาก เพราะนครลอนดอนเมืองผู้ดีเป็นทั้งแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสำคัญของโลก เป็นศูนย์รวมสถาปัตยกรรมโบราณตั้งแต่โกธิค นีโอคลาสสิค เมดิอิวัล เรเนซองส์ และศิลปะร่วมสมัยอื่นๆ จำนวนมาก อาคารเก่าๆ พระราชวัง และคฤหาสน์ต่างๆ ในเมืองนี้ ล้วนได้รับการบูรณะและรักษาไว้อย่างดี ที่เที่ยวดังๆ เช่น พระราชวังบักกิ้งแฮม (Buckingham Palace) สำนักสงฆ์เวสมินสเตอร์ (Westminster Abbey) มหาวิหารเซ็นต์ปอล (St. Paul’s Cathedral) สะพานหอคอยคู่ (London Tower Bridge) หอคอยลอนดอน (Tower of London) หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) และอาคารรัฐสภา (House of Parliament)